Privacy Policy
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท เอเอสเอ็ม เทรนนิ่ง จำกัด (ASM Training. Co. LTD) โดยในนโยบายนี้ให้เรียกว่า “บริษัท” ยึดมั่นการดำเนินการธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ เคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย และ
ตระหนักถึงการได้รับความไว้วางใจจากผู้ที่ติดต่อประสานงาน หรือ ผู้มาใช้บริการ หรือผู้ที่มาสมัครงานกับบริษัท ดังนั้นทางบริษัทจึงให้ความสำคัญด้านการเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวของท่าน และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทางบริษัทได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการดำเนินงานของทุกกิจกรรมของบริษัท ด้วยมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านได้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้กับทางบริษัทไว้จะได้รับความคุ้มครอง และจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการของท่านและถูกต้องตามกฎหมาย

            ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ อธิบายถึงวิธีการรวบรวมและนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ซึ่งอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act : PDPA)

            ในนโยบายนี้ประกอบด้วยวิธีการและเหตุผลในการรวบรวม การจัดเก็บ การใช้โอนข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมทั้งช่องทางติดต่อบริษัทและหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล ในกรณีที่มีการร้องเรียน

            บริษัท มีความประสงค์ที่จะรวบรวมการจัดเก็บ การใช้และรับผิดชอบต่อข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างเกี่ยวกับผู้ที่มาใช้บริการ การดำเนินการควบคุมจะอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ของ PDPA และรับผิดชอบในฐานะ "ผู้ควบคุม" ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง

            ข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึงข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่รวมถึงข้อมูลที่ไม่มีการระบุรายละเอียดข้อมูลของเจ้าของข้อมูลที่ชัดเจนทำให้มีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหลน้อยมาก (ข้อมูลนิรนามที่ไม่ระบุตัวตน) บริษัทจะแยกการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลออกเป็นสองส่วนซึ่งสามารถดูรายละเอียด ดังนี้
 
1. บุคคลภายนอก

รายละเอียดส่วนบุคคล:
- ชื่อ - นามสกุล
- หลักฐานประจำตัวและที่อยู่ (รวมถึงรายละเอียดเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือหนังสือเดินทาง)
- รายละเอียดใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะหากมี
- ประวัติสุขภาพ
- ภาพถ่าย และบันทึกวิดีโอ

รายละเอียดหน่วยงานที่มาติดต่อ:
- ชื่อหน่วยงานที่มาติดต่อ
- บุคคลที่มาติดต่อ
- เบอร์ติดต่อนายจ้าง
- ช่วงเวลาที่มาติดต่อ

บันทึกความปลอดภัยทางกายภาพ:
- ภาพจากกล้องวงจรปิด: ภาพของบุคคลที่สามารถระบุตัวตนที่มาใช้พื้นที่ของบริษัท
- รูปถ่าย: ภาพถ่ายจะถูกใช้เพื่อระบุตัวตน เมื่อรับบัตรเข้าพื้นที่

2. บุคคลในองค์กร

รายละเอียดส่วนบุคคล:
- ชื่อ – นามสกุล
- วัน เดือน ปีที่เกิด
- ที่อยู่
- หลักฐานบัตรประจำตัวประชาชนและที่อยู่ (รวมถึงรายละเอียดหนังสือเดินทาง)
- สัญชาติ, ศาสนา
- หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ
- อีเมล์ส่วนตัว
- สถานภาพการสมรส
- ทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
- เอกสารเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล
- สูติบัตร
- ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และหลักฐานขออนุญาตใช้ยานพาหนะ
- รายละเอียดของบุคลิกภาพและน้ำหนักส่วนสูง
- กิจกรรมยามว่างและความสนใจ
- ภาพถ่าย และบันทึกวิดีโอ

รายละเอียดของครอบครัว:
- ชื่อคู่สมรส (รวมหมายเลขโทรศัพท์และที่อยู่)
- ชื่อสมาชิกในครอบครัวที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน

เอกสารต้องใช้ภายใต้กฎหมายไทย
- หมายเลขประจำตัวประชาชน
- รายละเอียดที่อยู่อาศัยปัจจุบัน

ค่าตอบแทนและข้อมูลสถานะภาพการเป็นพนักงาน:
- ตำแหน่งปัจจุบัน
- ประวัติการทำงาน และการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
- ข้อมูลติดต่อที่ทำงาน (รวมถึงหมายเลขโทรศัพท์ และ ที่อยู่อีเมล์)
- ผลการตรวจสุขภาพ (ข้อมูลการตรวจสอบสารเสพติดยาและแอลกอฮอล์ ข้อมูลโรคประจำตัว และสาเหตุที่ไม่สามารถมาปฏิบัติงานได้)
- สถานที่ทำงานเดิมเพื่อการอ้างอิง
- ภาพถ่ายของคุณ

ข้อมูลการจ่ายเงินเดือน;
- สมุดบัญชีธนาคาร

การบริหารจัดการบุคคล / ประวัติส่วนตัว;
- รายละเอียดที่มีอยู่ในใบสมัครและประวัติส่วนตัวที่ให้ไว้กับบริษัท (แบบดิจิทัลหรือเป็นหนังสือเอกสาร) รวมถึงประวัติการจ้างงานก่อนหน้านี้ คุณสมบัติทางวิชาชีพ การอ้างอิง การพัฒนาอาชีพและการวิเคราะห์ ทักษะ การฝึกอบรม การเปลี่ยนแปลงแผนก ผลการปฏิบัติงาน และข้อมูลการเทียบ

การบันทึกภาพเพื่อความปลอดภัย:
- ภาพจากกล้องวงจรปิด: ภาพของบุคคลที่สามารถระบุตัวตนได้จากพื้นที่อาคารของบริษัท
- ข้อมูลไบโอเมตริกซ์ (ลายนิ้วมือ) สำหรับใช้กับเครื่อง finger scan
- รูปถ่าย: ภาพจะใช้บนบัตรประจำตัวพนักงานเพื่อวัตถุประสงค์ในการระบุตัวตน

บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างไร

            ทางบริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเฉพาะในส่วนที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) อนุญาตให้เท่านั้น การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลจะมีกรณีดังต่อไปนี้

บุคคลภายนอก

- เพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ติดต่อประสานงาน
- เพื่อออกบัตรประจำตัวผู้ติดต่อประสานงาน
- เพื่อการจัดการด้านสุขภาพและความปลอดภัยสำหรับพนักงานและพื้นที่ของบริษัท
- ปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายและข้อบังคับใด ๆ ที่บังคับใช้กับบริษัท
- การจัดตั้งใช้สิทธิหรือปกป้องสิทธิตามกฎหมายของบริษัท
- สำหรับการดำเนินงานที่ชอบด้วยกฎหมายของธุรกิจของเราให้รวมถึงการจัดการและการวางแผนธุรกิจ การตรวจสอบและการบัญชี
- ข้อมูลนามบัตร

บุคคลในองค์กร

- เพื่อดำเนินงาน สนับสนุน ในการบริหารและการจัดการทรัพยากรบุคคล (รวมถึง การสรรหาการบริหารเงินเดือน การบริหารพนักงาน การจัดการการเรียนรู้ การบริหารผลงาน การจัดเก็บข้อมูล การรายงานค่าใช้จ่าย การบริหารสิทธิประโยชน์ และ ข้อมูลการจ้างงาน);
- จัดการสัญญาการจ้างงาน
- เพื่อทำการสำรวจความพึงพอใจเพื่อรักษาการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
- เพื่อจัดทำแประวัติส่วนตัวของผู้สมัคร และการประเมินความเหมาะสม
- เพื่อจัดการบันทึกด้านสุขภาพและความปลอดภัย รวมทั้งการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล
- เพื่อนำส่งข้อมูลให้กับประกันสังคม
- เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการทำประกันสุขภาพกลุ่มให้กับพนักงาน
- เพื่อเป็นข้อมูลในการทำธุรกรรมทางการเงินของพนักงาน
- เพื่อทำการเบิกจ่ายเช็คเงินเดือน
- เพื่อส่งต่อและการจัดการด้านอาชีวอนามัย
- เพื่อการตรวจสอบความปลอดภัยการตรวจประวัติอาชญากรรม การตรวจสอบเครดิตและการปลอดอาชญากรรม (หากบังคับและอนุญาตตามกฎหมาย)
- เพื่อเป็นการยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับประวัติย่อและจดหมายนำต่าง ๆ จดหมายอ้างอิงและการตรวจสอบผลงานในอดีต
- เพื่อการจัดการพนักงานและการเลื่อนตำแหน่ง
- เพื่อการให้ข้อมูลพนักงานแก่ลูกค้าหน่วยงาน ตัวแทน และผู้จัดจำหน่าย เพื่อการให้บริการของเรา
- เพื่อการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดและการรักษาความปลอดภัยในบริเวณพื้นที่ของบริษัท
- เพื่อการจัดการด้านธุรกิจรวมถึงการบัญชีและการตรวจสอบ
- เพื่อการปฏิบัติตามขั้นตอน กฎหมายและข้อบังคับใด ๆ ที่บังคับใช้กับบริษัท
- เพื่อตรวจสอบ การดำเนินการและจัดเก็บประวัติการฝึกอบรม
- เพื่อการวางแผนการจัดการงาน - รวมถึงการเตรียมการเดินทางและที่พัก
- เพื่อการใช้ก่อสิทธิการใช้สิทธิหรือปกป้องสิทธิตามกฎหมายของบริษัท และเพื่อการดำเนินธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมาย

บริษัทต้องการความยินยอมจากท่านอย่างไร
            บางกรณีบริษัทไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลหากบริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามนโยบายที่เป็นลายลักษณ์อักษรของบริษัท เพื่อปฏิบัติตามทางกฎหมาย แต่ในบางกรณีทางบริษัท ฯ อาจจำเป็นต้องติดต่อเจ้าของข้อมูลเพื่อขอความยินยอมเป็นหนังสือ เพื่อขอความยินยอมให้บริษัทสามารถใช้ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนบางอย่างโดยเฉพาะ โดยบริษัทจะอธิบายให้ทราบถึงรายละเอียดและเหตุผลในการนำข้อมูลที่บริษัทต้องการ เพื่อที่เจ้าของข้อมูลจะได้พิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะให้ความยินยอมหรือไม่

 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บไว้นานเพียงใด
            บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไว้นานเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่บริษัทรวบรวมข้อมูลนั้นไว้ รวมถึงวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎหมายด้านการบัญชีหรือด้านการรายงานต่าง ๆ

            บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาที่จำเป็นตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ในบางกรณีบริษัทอาจแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลในรูปแบบนิรนาม เพื่อไม่ให้สามารถเชื่อมโยงกับเจ้าของข้อมูลได้ ซึ่งในกรณีนี้บริษัทอาจใช้ข้อมูลดังกล่าวโดยไม่ต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบ

สิทธิของท่านมีอะไรบ้าง

ภายใต้กฎหมาย PDPA เจ้าของข้อมูลมีสิทธิสำคัญโดยมีรายละเอียด ดังนี้                                          

  • การร้องขอเข้าถึงข้อมูลตนเอง เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ที่จะร้องขอการเข้าถึงข้อมูลของตนเอง และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ ตามประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
  • การร้องขอแก้ไข เจ้าของข้อมูลสามารถร้องขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้กับทางบริษัท ในข้อมูลมีไม่สมบูรณ์หรือไม่ถูกต้อง
  • การร้องขอลบข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิร้องขอให้ทางบริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ไม่มีเหตุผลเพียงพอ ที่บริษัทจะใช้ประมวลผลใด ๆ  นอกจากนี้เจ้าของข้อมูลยังมีสิทธิร้องขอให้ทางบริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการคัดค้านขั้นตอนการประมวลผล
  • คัดค้านขั้นตอนการประมวลผล เจ้าของข้อมูลสามารถร้องขอให้หยุดขั้นตอนการประมวลผลที่ทางบริษัทนำข้อมูลของเจ้าของข้อมูลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดแบบขายตรง
  • คัดค้านการตัดสินใจ เจ้าของข้อมูลมีสิทธิคัดค้านวิธีการอัตโนมัติใดๆ ของบริษัทที่เมื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้แล้วมีผลกระทบหรือมีนัยยะทางกฎหมายต่อเจ้าของข้อมูล       
  • คัดค้านในสถานการณ์อื่น ๆ เจ้าของข้อมูลมีสิทธิคัดค้านในการที่บริษัทจะนำข้อมูลของตนไปประมวลผลในเรื่องอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง
  • การร้องขอให้โอนถ่ายข้อมูล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิร้องขอให้ทางบริษัทโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังหน่วยงานอื่น หรือ บุคคลอื่นได้
  • การถอนความยินยอม เจ้าของข้อมูลมีสิทธิถอนความยินยอมนำข้อมูลส่วนบุคคลไปประมวลผลในเรื่องต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา โดยจะมิได้มีผลต่อความชอบทางกฎหมายในเรื่องที่ได้ทำไปก่อนการถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูล อย่างไรก็ตามหากเจ้าของข้อมูลได้ถอนความยินยอมไปแล้วบริษัทอาจจะไม่สามารถขายสินค้าหรือให้บริการกับเจ้าของข้อมูลได้ ดังนั้นทางเจ้าของข้อมูลควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนการถอนความยินยอม

หากท่านต้องการใช้สิทธิเหล่านั้นโปรด:

  • โทรหรือเขียนถึงเราที่ email : dpo@asm-company.com
  • ให้เรามีข้อมูลเพียงพอที่จะระบุตัวท่าน
  • แจ้งหลักฐานยืนยันตัวตนและที่อยู่ของท่าน (สำเนาประชาชนหรือสำเนาใบขับขี่)
  • แจ้งให้เราทราบถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำขอของท่าน

            ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลให้ความยินยอม ในการรวบรวม การประมวลผล และโอนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมนั้นได้ตลอดเวลา

            หากต้องการถอนความยินยอมโปรดติดต่อ dpo@ asm-company.com เมื่อบริษัทได้รับการแจ้งจากเจ้าของข้อมูลว่ามีความต้องการที่จะถอนความยินยอมแล้ว บริษัทจะไม่ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลมีสิทธิถอนความยินยอมไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของเจ้าของข้อมูล เว้นแต่ว่าทางบริษัทจะมีฐานตามกฎหมายอื่นที่สามารถดำเนินการได้

การรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย

            บริษัทมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลส่วนบุคคลสูญหายโดยไม่ได้ตั้งใจหรือถูกใช้หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทางบริษัทได้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลทุกคน เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องที่จำเป็นต้องรู้ในทางธุรกิจเท่านั้น  ผู้ประมวลผลข้อมูลจะดำเนินการตามที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นและมีหน้าที่ในการรักษาความลับ

            นอกจากนี้บริษัทยังมีขั้นตอนในการจัดการกับข้อสงสัยในการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูลที่บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลและคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูลที่น่าสงสัยซึ่งบริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมาย

 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

            บริษัทได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อดูแลการปฏิบัติตามประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หากท่านมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้หรือเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อ DPO ทางอีเมล์ dpo@asm-company.com หมายเลขโทรศัพท์ 02 – 240 – 2931 ต่อ 1202

การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและหน้าที่เจ้าของข้อมูลในการแจ้งให้บริษัททราบหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล
            ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เผยแพร่เมื่อ วันที่ 1 เมษายน 2564 บริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงและแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทจะแจ้งนโยบายฉบับใหม่ในเว็บไซต์ www.asm-training.com

            สิ่งสำคัญคือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บไว้เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลนั้น จะต้องถูกต้องและเป็นข้อมูลปัจจุบัน โปรดแจ้งให้บริษัททราบหากข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างที่ท่านเจ้าของข้อมูลยังดำเนินธุรกิจใดกับบริษัท

 วิธีการติดต่อเรา
            โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลของบริษัทที่ dpo@asm-company.com หากท่านมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ของท่านที่บริษัทมีอยู่ หากท่านต้องการรายงานปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับเว็บไซต์ของบริษัทโปรดติดต่อ info@asm-company.com




 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้