รายละเอียดส่วนบุคคล:
- ชื่อ - นามสกุล
- หลักฐานประจำตัวและที่อยู่ (รวมถึงรายละเอียดเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือหนังสือเดินทาง)
- รายละเอียดใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะหากมี
- ประวัติสุขภาพ
- ภาพถ่าย และบันทึกวิดีโอ
รายละเอียดหน่วยงานที่มาติดต่อ:
- ชื่อหน่วยงานที่มาติดต่อ
- บุคคลที่มาติดต่อ
- เบอร์ติดต่อนายจ้าง
- ช่วงเวลาที่มาติดต่อ
บันทึกความปลอดภัยทางกายภาพ:
- ภาพจากกล้องวงจรปิด: ภาพของบุคคลที่สามารถระบุตัวตนที่มาใช้พื้นที่ของบริษัท
- รูปถ่าย: ภาพถ่ายจะถูกใช้เพื่อระบุตัวตน เมื่อรับบัตรเข้าพื้นที่
2. บุคคลในองค์กร
รายละเอียดส่วนบุคคล:
- ชื่อ – นามสกุล
- วัน เดือน ปีที่เกิด
- ที่อยู่
- หลักฐานบัตรประจำตัวประชาชนและที่อยู่ (รวมถึงรายละเอียดหนังสือเดินทาง)
- สัญชาติ, ศาสนา
- หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ
- อีเมล์ส่วนตัว
- สถานภาพการสมรส
- ทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
- เอกสารเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล
- สูติบัตร
- ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และหลักฐานขออนุญาตใช้ยานพาหนะ
- รายละเอียดของบุคลิกภาพและน้ำหนักส่วนสูง
- กิจกรรมยามว่างและความสนใจ
- ภาพถ่าย และบันทึกวิดีโอ
รายละเอียดของครอบครัว:
- ชื่อคู่สมรส (รวมหมายเลขโทรศัพท์และที่อยู่)
- ชื่อสมาชิกในครอบครัวที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
เอกสารต้องใช้ภายใต้กฎหมายไทย
- หมายเลขประจำตัวประชาชน
- รายละเอียดที่อยู่อาศัยปัจจุบัน
ค่าตอบแทนและข้อมูลสถานะภาพการเป็นพนักงาน:
- ตำแหน่งปัจจุบัน
- ประวัติการทำงาน และการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
- ข้อมูลติดต่อที่ทำงาน (รวมถึงหมายเลขโทรศัพท์ และ ที่อยู่อีเมล์)
- ผลการตรวจสุขภาพ (ข้อมูลการตรวจสอบสารเสพติดยาและแอลกอฮอล์ ข้อมูลโรคประจำตัว และสาเหตุที่ไม่สามารถมาปฏิบัติงานได้)
- สถานที่ทำงานเดิมเพื่อการอ้างอิง
- ภาพถ่ายของคุณ
ข้อมูลการจ่ายเงินเดือน;
- สมุดบัญชีธนาคาร
การบริหารจัดการบุคคล / ประวัติส่วนตัว;
- รายละเอียดที่มีอยู่ในใบสมัครและประวัติส่วนตัวที่ให้ไว้กับบริษัท (แบบดิจิทัลหรือเป็นหนังสือเอกสาร) รวมถึงประวัติการจ้างงานก่อนหน้านี้ คุณสมบัติทางวิชาชีพ การอ้างอิง การพัฒนาอาชีพและการวิเคราะห์ ทักษะ การฝึกอบรม การเปลี่ยนแปลงแผนก ผลการปฏิบัติงาน และข้อมูลการเทียบ
การบันทึกภาพเพื่อความปลอดภัย:
- ภาพจากกล้องวงจรปิด: ภาพของบุคคลที่สามารถระบุตัวตนได้จากพื้นที่อาคารของบริษัท
- ข้อมูลไบโอเมตริกซ์ (ลายนิ้วมือ) สำหรับใช้กับเครื่อง finger scan
- รูปถ่าย: ภาพจะใช้บนบัตรประจำตัวพนักงานเพื่อวัตถุประสงค์ในการระบุตัวตน
บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างไร
ทางบริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเฉพาะในส่วนที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) อนุญาตให้เท่านั้น การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลจะมีกรณีดังต่อไปนี้
บุคคลภายนอก
- เพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ติดต่อประสานงานบุคคลในองค์กร
บริษัทต้องการความยินยอมจากท่านอย่างไร
บางกรณีบริษัทไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลหากบริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามนโยบายที่เป็นลายลักษณ์อักษรของบริษัท เพื่อปฏิบัติตามทางกฎหมาย แต่ในบางกรณีทางบริษัท ฯ อาจจำเป็นต้องติดต่อเจ้าของข้อมูลเพื่อขอความยินยอมเป็นหนังสือ เพื่อขอความยินยอมให้บริษัทสามารถใช้ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนบางอย่างโดยเฉพาะ โดยบริษัทจะอธิบายให้ทราบถึงรายละเอียดและเหตุผลในการนำข้อมูลที่บริษัทต้องการ เพื่อที่เจ้าของข้อมูลจะได้พิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะให้ความยินยอมหรือไม่
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บไว้นานเพียงใด
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไว้นานเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่บริษัทรวบรวมข้อมูลนั้นไว้ รวมถึงวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎหมายด้านการบัญชีหรือด้านการรายงานต่าง ๆ
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาที่จำเป็นตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ในบางกรณีบริษัทอาจแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลในรูปแบบนิรนาม เพื่อไม่ให้สามารถเชื่อมโยงกับเจ้าของข้อมูลได้ ซึ่งในกรณีนี้บริษัทอาจใช้ข้อมูลดังกล่าวโดยไม่ต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบ
สิทธิของท่านมีอะไรบ้าง
ภายใต้กฎหมาย PDPA เจ้าของข้อมูลมีสิทธิสำคัญโดยมีรายละเอียด ดังนี้
หากท่านต้องการใช้สิทธิเหล่านั้นโปรด:
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลให้ความยินยอม ในการรวบรวม การประมวลผล และโอนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมนั้นได้ตลอดเวลา
หากต้องการถอนความยินยอมโปรดติดต่อ dpo@ asm-company.com เมื่อบริษัทได้รับการแจ้งจากเจ้าของข้อมูลว่ามีความต้องการที่จะถอนความยินยอมแล้ว บริษัทจะไม่ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลมีสิทธิถอนความยินยอมไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของเจ้าของข้อมูล เว้นแต่ว่าทางบริษัทจะมีฐานตามกฎหมายอื่นที่สามารถดำเนินการได้
การรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย
บริษัทมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลส่วนบุคคลสูญหายโดยไม่ได้ตั้งใจหรือถูกใช้หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทางบริษัทได้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลทุกคน เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องที่จำเป็นต้องรู้ในทางธุรกิจเท่านั้น ผู้ประมวลผลข้อมูลจะดำเนินการตามที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นและมีหน้าที่ในการรักษาความลับ
นอกจากนี้บริษัทยังมีขั้นตอนในการจัดการกับข้อสงสัยในการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูลที่บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลและคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูลที่น่าสงสัยซึ่งบริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมาย
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อดูแลการปฏิบัติตามประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หากท่านมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้หรือเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อ DPO ทางอีเมล์ dpo@asm-company.com หมายเลขโทรศัพท์ 02 – 240 – 2931 ต่อ 1202
การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและหน้าที่เจ้าของข้อมูลในการแจ้งให้บริษัททราบหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล
ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เผยแพร่เมื่อ วันที่ 1 เมษายน 2564 บริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงและแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทจะแจ้งนโยบายฉบับใหม่ในเว็บไซต์ www.asm-training.com
สิ่งสำคัญคือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บไว้เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลนั้น จะต้องถูกต้องและเป็นข้อมูลปัจจุบัน โปรดแจ้งให้บริษัททราบหากข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างที่ท่านเจ้าของข้อมูลยังดำเนินธุรกิจใดกับบริษัท
วิธีการติดต่อเรา
โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลของบริษัทที่ dpo@asm-company.com หากท่านมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ของท่านที่บริษัทมีอยู่ หากท่านต้องการรายงานปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับเว็บไซต์ของบริษัทโปรดติดต่อ info@asm-company.com